Huawei (หัวเว่ย) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศจีน เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Harmony OS รุ่นใหม่ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 (ค.ศ.2024)
พร้อมทั้งมีการปรับปรุงโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ชื่อว่า Pangu ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของหัวเว่ยในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์เทียบเคียงกับบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง OpenAI, Google, Apple และ Nvidia
หัวเว่ยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองเพื่อทดแทนระบบ Android ของ Google นับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำทางการค้ากับหัวเว่ย ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป หัวเว่ยอ้างว่าระบบปฏิบัติการ Harmony OS นี้มีความปลอดภัยสูง และควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันในด้านปัญญาประดิษฐ์ จีนกำลังมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI ที่เทียบเท่ากับเทคโนโลยีของ OpenAI รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้
โมเดล Pangu 5.0 LLM มีขนาดของโมเดลการฝึกอบรมที่แตกต่างกันถึง 4 แบบ โดยสามารถรองรับตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงการทำงานที่ซับซ้อน รุ่นที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีพารามิเตอร์มากถึงหนึ่งล้านล้านตัว ซึ่งเทียบได้กับโมเดล GPT-4 ของ OpenAI
HarmonyOS Next รุ่นใหม่นี้จะถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, รถยนต์, อุปกรณ์สวมใส่ และอุปกรณ์สำหรับองค์กร หัวเว่ยเปิดเผยว่า ในปัจจุบันนี้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS มีอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่มากกว่า 900 ล้านเครื่องทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว
“เราได้ใช้โอกาสนี้ในการแซงหน้าผู้อื่น ด้วยการสร้างระบบปฏิบัติการที่ควบคุมได้ด้วยตัวเอง และมีความปลอดภัย” Richard Yu ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะของหัวเว่ย กล่าวในงานประชุมนักพัฒนาที่ เมืองดองกวน ประเทศจีน “ในเวลาเพียงแค่หนึ่งทศวรรษ เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายหลายประการ ซึ่งต้องใช้เวลาสามถึงสี่ทศวรรษสำหรับประเทศฝั่งตะวันตก”
“ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ต้องการระบบเฉพาะสำหรับในแต่ละอุปกรณ์ แต่ Harmony OS Next เป็นระบบเดียวที่ครอบคลุมทุกอย่าง” คุณ Yu กล่าว พร้อมยืนยันว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Mate 70 ที่กำลังจะวางจำหน่ายปลายปีนี้จะใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS Next และจะมีรุ่นอื่น ๆ รองรับอีกมากมายในปี 2025 (พ.ศ.2568)