ตัดสินใจครั้งใหญ่ ! Apple ลงทุนระยะยาว พัฒนาชิปโมเด็มเองลดการพึ่งพา Qualcomm !

Qualcomm

Apple เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชิปด้วยตนเองเป็นอย่างมาก ด้วยทีมงานที่มีความสามารถ และประสบการณ์สูง และความเชื่อที่ว่า ชิปที่ออกแบบเองจะทำให้สามารถพัฒนาให้เข้ากับ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของตนเองได้อย่างลงตัว ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่ iPhone แม้จะมีสเปคบนหน้ากระดาษที่ดูต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ก็มีประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกัน ส่งผลให้ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ของ Apple มีความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่น

ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ Apple ใช้ชิปโมเด็มที่ออกแบบโดย Qualcomm ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตชิปโมเด็ม สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์กับเครือข่ายมือถือ ซึ่งโมเด็มถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดรองจากหน่วยประมวลผลหลัก (CPU) ของโทรศัพท์เลย การจะแทนที่โมเด็มที่ดีที่สุดอยู่แล้วนั้นไม่ง่าย นับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Apple

โดย Apple ได้เริ่มต้นโครงการพัฒนาโมเด็มของตัวเอง หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องค่าลิขสิทธิ์กับ Qualcomm ในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) ทาง Qualcomm เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามมูลค่าของอุปกรณ์ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโมเด็มเท่านั้น ซึ่ง Apple มองว่าอัตราค่าลิขสิทธิ์ที่เรียกเก็บนั้นสูงเกินไป และไม่เป็นธรรม เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Apple ต้องมองหาทางเลือกในการลดการพึ่งพาโมเด็มจาก Qualcomm

แต่ว่าการอัปเกรดโมเด็มของ Apple ในปัจจุบันยังคงไม่น่าจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น เพราะ โมเด็มของ Qualcomm ที่ใช้ในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก และมีการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลกเป็นสิ่งยืนยัน แม้ว่าการพัฒนาโมเด็มใหม่จะเป็นเรื่องยาก แต่ Apple ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปทั้งเงินทุนมหาศาล, บุคลากรจำนวนมาก และเวลาที่ต้องใช้ เพื่อพัฒนาชิปโมเด็มของตัวเองให้สำเร็จ

ในช่วงเวลานี้โครงการพัฒนาโมเด็มของ Apple กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพที่ยังไม่ดี, ความร้อนสูง และการระมัดระวังไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิบัตรของ Qualcomm ด้วย ทำให้แผนการเปิดตัวล่าช้าไปอย่างน้อยอีกหนึ่งปี และคาดว่าการนำโมเด็มใหม่มาใช้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากในบางรุ่นก่อน แล้วจึงขยายไปสู่รุ่นอื่น ๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปี

จากปัญหาเหล่านี้ Apple จึงต้องขยายสัญญากับ Qualcomm ออกไปจนถึงปี ค.ศ. 2027 (พ.ศ.2570) ซึ่งหมายความว่า Qualcomm จะยังคงเป็นผู้จัดหาโมเด็มให้กับ Apple สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ในอนาคต และ Apple ก็ยังต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Qualcomm ตามข้อตกลงที่ได้เจรจากันไว้

อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโมเด็มของตัวเอง โดยมีเป้าหมายที่จะรวมโมเด็มเข้ากับชิปไร้สายอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ในระยะยาว Apple อาจรวมชิปเหล่านี้เข้ากับชิปหลักของอุปกรณ์ให้เป็น SoC ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน, ประหยัดพื้นที่ และเปิดโอกาสให้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้การลดการพึ่งพา Qualcomm อาจทำให้ Apple มีงบประมาณมากขึ้นสำหรับการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ต่อไป

ที่มา : www.bloomberg.com