ในวันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ที่ผ่านมา มูลค่าของบริษัท Nvidia ได้ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในวันนั้น
โดยการประเมินมูลค่าของบริษัทผู้ผลิตการ์ดจอ ที่ปัจจุบันนี้หันมาเอาดีด้านการผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence (AI)) ได้ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าบริษัท Apple ก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับที่สองของโลก
โดยมูลค่าของ Nvidia ได้เพิ่มขึ้นหลังจากมีการแตกพาร์หุ้นออกเป็น 10:1 โดยมีผลในวันที่ 7 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
มูลค่าในตลาดของบริษัท Nvidia ที่พุ่งสูงขึ้นเหนือ Apple นี้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน Silicon Valley เพราะบริษัท Apple เป็นบริษัทที่ครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ที่บริษัทได้เปิดตัว iPhone ในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007)
หุ้นของบริษัท Nvidia เพิ่มขึ้นถึง 5.2 % และปิดในวันนั้นที่ 1,224.40 ดอลลาร์สหรัฐ ประเมินมูลค่าบริษัทที่ 3.012 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทาง Apple เองมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.003 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่หุ้นเพิ่มขึ้น 0.8 % และผู้ที่ครองอันดับ 1 อยู่ก็คือบริษัท Microsoft ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกโดยมีมูลค่าอยู่ที่ 3.15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่หุ้นพุ่งขึ้น 1.9 %
Jake Dollarhide ประธานบอร์ดบริหารแห่ง Longbow Asset Management บริษัทการเงินรายใหญ่ ได้กล่าวไว้ว่า “Nvidia กำลังสร้างรายได้จากการขาย AI ในขณะที่ บริษัทอย่าง Apple และ Meta กำลังเสียเงินจำนวนมหาศาลกับการพัฒนา AI” นั่นหมายความว่า ยิ่ง Microsoft และ Meta ลงทุนกับ AI มากเท่าไหร่ รายได้ของ Nvidia ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากแนวโน้มยังเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็มีโอกาสที่มูลค่าของบริษัท Nvidia จะแซงหน้า Microsoft ได้สำเร็จ
ที่มา : www.reuters.com