ความเร็วในการสื่อสาร และแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างฉับไวคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล่าสุด ทีมนักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้สร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติความเร็วอินเทอร์เน็ตใหม่ของโลก
ทีมนักวิจัยชาวญี่ปุ่นจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ประสบความสำเร็จในการทดลองความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วแรงที่สุดในโลก โดยใช้สายใยแก้วนำแสงที่วางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด แต่ด้วยเทคนิคใหม่ช่วยให้ทีมวิจัยสามารถส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วที่สูงถึง 402 Tbit/s ซึ่งเร็วกว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาถึงประมาณ 1.6 ล้านเท่า
เทคนิคใหม่นี้สำเร็จได้โดยใช้ย่านความถี่ทั้งหมดที่มีอยู่ในสายใยแก้วนำแสงมาตรฐานซึ่งปกติไม่มีการนำมาใช้ ร่วมกับเทคโนโลยีการขยายสัญญาณต่าง ๆ มาใช้ NICT ระบุว่า วิธีการใหม่นี้อาจเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเครือข่ายโทรคมนาคมในอนาคต
NICT คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นใหม่นี้ จะช่วยยกระดับความสามารถในการสื่อสารของโครงสร้างพื้นฐานแบบ Fiber Optic อย่างมาก เพื่อรองรับความต้องการบริการข้อมูลในอนาคตที่เพิ่มขึ้น
การใช้เทคโนโลยี WDM (Wavelength Division Multiplexing) แบบแยกช่วงความยาวคลื่นหลายแถบ กำลังได้รับความสนใจในวงแวดวงการวิจัยด้านนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการแบนด์วิดการส่งสัญญาณด้วยใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ที่เพิ่มขึ้น
การใช้ย่านความถี่ใหม่เหล่านี้ในสายใยแก้วที่มีอยู่เดิม จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งข้อมูลได้อย่างมาก นับเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่สั้น และคุ้มค่า ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบสายใยแก้วที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลในการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด
นักวิจัยของ NICT ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการส่งข้อมูลความเร็วสูงเพื่อครอบคลุมระยะทางไกลข้ามมหาสมุทร อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ภายใต้เงื่อนไขภายในห้องปฏิบัติการที่เหมาะสม ในการนำมาใช้ในสถานการณ์จริง ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องหาทางแก้ไขให้สำเร็จเสียก่อน
ที่มา : www.techtimes.com